วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

[OS] The boy next door



The boy next door    

- - x - -    

nc    











กลิ่นไอของชาร้อนในถ้วยกระเบื้องเคลือบทรงยุโรปอบอวลไปทั่วห้องนอนขนาดใหญ่ตามปกติเช่นทุกวัน ชาฝรั่งชั้นดีที่เจ้าของบ้านยังไม่ได้ชิมรสหอมหวานของมันเย็นลงก่อนจะถูกยกขึ้นไปโดยเจ้าของ แต่คงเพราะกลิ่นชาที่ยังคงลอยวนอยู่ทั่วห้องทำให้เจ้าตัวไม่ได้เอะใจอะไรไป ริมฝีปากนั้นบางแนบลงที่ปากถ้วยแล้วจิบสัมผัสรสชาติแปร่งเพราะความเย็นชืดของมัน ราวกับเพิ่งนึกได้ว่าตนทิ้งมันไว้นานพอสมควรและมัวแต่ทำงานเพลินจนลืมชาที่ตัวเองชงไว้ เขาส่ายหัวระอาให้ตัวเองแล้วตั้งหน้าตั้งตาสะสางงานตรงหน้าให้เสร็จทันการตามที่กำหนด





มนุษย์ทั่วไปก็สามารถหลงลืมกันได้เป็นเรื่อง ธรรมดา ใช่ไหม?





ธรรมดา คงเป็นคำที่นิยามวิถีชีวิตของเขาได้เป็นอย่างดีที่สุด ตลอดการใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมายี่สิบเก้าปีทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนั้นล้วนแต่มีความธรรมดาเฉกเช่นกับแนวการดำรงชีพของเขาในแต่ละวัน แม้อาชีพสถาปนิกของเขาที่ใครก็ต่างพากันชื่นชมว่ามันช่างเท่และเหมาะกับบุคลิกอย่างที่เขาเป็น เขาก็ยังรู้สึกว่ามันแสนจะธรรมดา เพื่อนร่วมงานก็ธรรมดาแต่จะว่าไปแล้วคนอย่างเขาก็มีเพื่อนร่วมงานไม่มากนัก เพราะเจ้าตัวออกจะเป็นคนธรรมดาที่รักสันโดษ ชอบอยู่ลำพังคนเดียวไม่สุงสิงกับใครเท่าที่ควรจะเป็น ทำงานเสมือนเป็นนายตัวเองและพึงพาเพียงความสามารถเพื่องานการต่าง ๆ กิจวัตรประจำวันก็ธรรมดา แทบจะเป็นเช่นเดิมทุกวันหมุนเวียนเป็นวงจรเสมือนน้ำที่ไหลเวียนเปลี่ยนสถานะของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ตลอดเวลาและมันอาจจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปไม่มีทางเป็นอื่นเสีย


แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นเพียงคนคนหนึ่งซึ่งต้องพบปะผู้คนบ้างตามวิสัยของสัตว์สังคมที่มีวงจรซับซ้อน โปรดเชื่อเถิดว่าไม่มีมนุษย์หน้าไหนที่จะอยู่เพียงลำพังไปได้ตลอด มันอาจต้องพบเจอความเหน็บหนาวที่ค่อย ๆ แทะเล็มกัดกินเลือดเนื้อไปทีละเล็กที่ละน้อยอย่างเจ็บปวดรวดร้าว ความเดียวดายคงมีอำนาจสั่งการมากพอให้คนเราทรมานและพร้อมที่จะตรอมใจตายลงไปอย่างช้า ๆ และเงียบงัน เขาไม่เคยได้รับมันจากสิ่งเหล่านั้นแม้ในใจอยากจะอยู่ลำพังในโลกของตัวเองมากเพียงใด แต่สังคมที่ห้อมล้อมเขาอยู่คือสิ่งที่จะนำพาเขาไปสู่ความสำเร็จ เงินทอง ความสุขสบายที่คิดว่าสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ รวมถึงเสมือนเป็นการได้ตอบแทนผู้ที่เลี้ยงดูฟูมฟักมาตลอดสิบห้าปีก่อนจะจากโลกนี้ไปด้วยอุบัติเหตุร้ายแรงที่เขาไม่เคยคาดเดาว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้


ถึงจะไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใครมากนักแต่ผู้ให้กำเนิดทั้งสองที่เฝ้ามองลงมาก็คงไม่มีอะไรให้ต้องห่วงลูกชายเพียงคนเดียวอย่างเขา อย่างน้อยหากหน้าที่การงานดี พึ่งพาตัวเองได้และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว..


ผู้คนต่างบุคลิกและลักษณะนิสัยเข้ามาในชีวิตของเขามากมาย ตั้งแต่คนที่ใช้ชีวิตธรรมดาเช่นเขาไปจนถึงคนที่น่าทึ่งที่เขาไม่อาจจินตนาการได้ว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้ หากทำได้เพียงชื่นชมและยอมรับมันไปจนเป็นเรื่องปกติ เรื่องความรักก็ยิ่งเรียบเฉยธรรมดามากขึ้นไปอีกขั้นถึงแม้จะเคยมีคนรักมาเป็นจำนวนหนึ่งแต่ก็ไม่มีใครที่ใช้เวลาดี ๆ ร่วมกันเป็นเวลานานและส่วนใหญ่มักจะมองว่าเขาเป็นคนที่จืดชืดไม่มีความโรแมนติกเอาเสียเลย ในขณะที่เขาก็คบคนพวกนั้นไปตามวิถีของธรรมชาติเมื่อพบเจอคนที่ต้องตาแต่อาจไม่ต้องใจก็อยากใกล้ชิดสนิทสนมบ้างเป็นเรื่องปกติ คนพวกนั้นที่เข้ามาก่อนจากไปไม่ใช่เพราะความคิดของอีกฝ่ายเท่านั้น ความคิดของเขาเองก็เป็นส่วนที่ช่วยเร่งให้ความสัมพันธ์ขาดสะบั้นลงรวดเร็วและไม่คิดตริตรองรั้งใครต่อใครเอาไว้ เพราะคนเหล่านั้นเมื่อลองคบหากันแล้วจริง ๆ ก็ไม่มีแม้สักคนที่ทำให้เขารู้สึกได้ว่า ไม่ธรรมดา จนต้องแสดงด้านเขาเองก็ไม่ได้แสดงให้คนภายนอกเห็นเช่นกัน





ไม่เห็นจำเป็น..





บ้านจัดสรรหลังใหญ่ที่อาศัยอยู่ในตอนนี้ก็เปรียบเหมือนรางวัลของความสำเร็จ โปรเจ็คใหญ่ที่ว่าตอบแทนการที่เขาแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเหลือล้น บวกกับศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิดทันสมัยล้ำหน้ามากกว่าสถาปนิกในวัยเดียวกัน เขาจึงได้รับเลือกให้เป็นผู้ออกแบบแปลนของบ้านจัดสรรให้วิลเลจแห่งนี้ บ้านหลังงามที่ตนเป็นผู้ออกแบบ รู้ไหมว่าการที่อยู่ในบ้านของตัวเอง ซ้ำยังเป็นบ้านที่ออกแบบเองรับผิดชอบทุกส่วนโครงสร้าง มันยิ่งให้ความรู้สึกผูกพันและในขณะที่คนอื่นไม่สามารถรับรู้ได้ว่าการออกแบบส่วนต่าง ๆ มันมาจากเหตุผลอะไร เสน่ห์ของมันที่เพียงต้องตาผู้คนให้เลือกซื้อและอยู่อาศัย แต่ไม่มีผู้ใดสามารถรับรู้ถึงจิตวิญญาณของบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่แม้แต่น้อยนอกเสียจากความสวยงามและราคาที่เป็นเครื่องเชิดหน้าชูตาว่าตนเป็นผู้มีอันจะกินในสังคม แต่ไม่รับรู้ถึงความพิเศษของมัน





ไม่มีวัน...





มือสวยหยิบพิมพ์เขียวแล้วกางออก ดวงตานั้นมองแปลนที่ตนออกแบบอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกตารางเพื่อป้องกันความผิดพลาดเมื่อได้รับการก่อสร้างจริง ข้อดีของเขาที่พอจะบอกอวดใคร ๆ ได้ก็คงมีเพียงการที่ตัดสินใจทำอะไรไปแล้วเขาจะทำมันอย่างทุ่มเท เต็มที่และผลที่ออกจะต้องดีเสมอ สมองที่มีไว้เพื่อการทำงานของเขาเหนื่อยล้าจากการทำงานติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันทำให้เขาต้องกดนิ้วลงไปที่ระหว่างคิ้ว กดคลึงเน้นย้ำเพื่อให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดต่าง ๆ นานาที่ประดังประเดเข้ามาในชีวิต แต่เพื่ออนาคตที่กำลังก่อร่างสร้างตัวทำให้เจ้าตัวจำใจจัดการตารางงานในวันนี้ของตัวเองเสียใหม่ ขายาวเดินไปปิดเครื่องปรับอากาศที่ทำงานตลอดทั้งคืนและเกือบทั้งวันก่อนตัดสินใจเปิดหน้าต่างบานใหญ่ใกล้ ๆ กับโต๊ะทำงานของตัวเองแทน ลมเย็นโกรกพัดผ่านเข้ามาในห้องที่เป็นทั้งห้องทำงานและห้องนอนไปพร้อมกันของเจ้าของบ้านคนเก่ง ลมเฉื่อยฉิวชวนให้รอยยิ้มที่เหือดหายไปเป็นเวลานานกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง จากนั้นก็หย่อนตัวทิ้งลงนั่งที่เก้าอี้ทำงาน หลังกว้างเอนพิงกับพนักอย่างหมดแรง มือใหญ่คว้าถ้วยชานั้นขึ้นมาอีกรอบ จิบรับความเย็นชืดของมัน เขาหัวเราะน้อย ๆ ให้ความเป็นมนุษย์ที่แสนจะธรรมดาของตัวเอง





แน่นอน.. เขาก็แค่คนธรรมดา..





เขาพาตัวเองออกไปยืดเส้นยืดสายข้างนอกตัวบ้านบ้างหลังจากไม่ได้ออกจากบ้านเลยสามวันติด บางครั้งเขาก็คิดว่าตัวเองบ้างานและหักโหมมากเกินไป ก่อนที่เขาจะใช้สมองตัวเองจนพังก็ขอหาอะไรเข้าหัวนอกจากเรื่องงานและผลประโยชน์บ้างส่วนตัวเถอะ


พลันสายตาของเขาก็เคลื่อนไปเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กที่กำลังเดินผ่านหน้าบ้าน มือของเด็กคนนั้นดูจะกำสายสะพายกระเป๋านักเรียนแน่นจนเกินพอดี ขาเรียวเล็กกำลังก้าวฉับอย่างไม่สนใจใคร ใบหน้านั่นก็ดูวิตกราวกับมีความตึงเครียดอย่างที่เขามี และดูท่าจะเป็นความเครียดที่หาทางออกยากเสียด้วยสิ..


เด็กหนุ่มคนนั้น.. เพื่อนบ้านอายุน้อยที่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านข้างเขาหลังจากที่โครงการนี้สร้างเสร็จได้ไม่นาน เด็กม.ปลายวัยคะนองคนนี้อยู่ตัวคนเดียวและต้องมาอยู่บ้านหลังใหญ่ในสังคมเมืองแบบนี้เขาก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมพ่อแม่ถึงได้ปล่อยให้เด็กชายที่อยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อมาอยู่เพียงลำพังแบบนี้





อาจเป็นเหตุผลเดียวกับเขาก็เป็นได้..





แต่แน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจเด็กคนนี้มากนักหรอก..





ร่างเล็กในชุดนักเรียน ม.ปลายอย่างที่เขาจะเห็นเกือบทุกวันหลังเลิกเรียนกำลังมองมาทางเขา เขาเรียวนั้นก้าวช้าลงแล้วโค้งตัวน้อย ๆ ให้เพื่อนบ้านที่อายุมากว่า เด็กคนนี้ทักทายเขาเป็นประจำถ้าได้มีโอกาสได้พบหน้า แม้บ้านจะติดกันแต่ปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาแทบจะเป็นศูนย์ แปลกที่มันไม่ใช่เพราะความแตกต่างของวัย แต่จากที่สังเกตตามประสาเพื่อนบ้านมาสักระยะ อีกฝ่ายก็คล้ายกับว่าจะมีภาวะบางอย่างที่ทำให้เขาถึงได้ยาก


เขาทำได้เพียงพยักหน้าตามอีกคนไปพลางยิ้มตอบรับบางเบาและได้แต่ยืนมองอีกคนที่ขอตัวกลับเข้าบ้านไป รอยยิ้มก่อนจากกันนั้นช่างเป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้าแม้ใบหน้าน่ารักนั่นจะยิ้มจนตาหยีให้เขา แสดงท่าทางดูกระตือรือร้นเหมือนเด็กที่สดใสทั่วไป แต่กลับมีวูบหนึ่งที่แววตาทอเป็นประกายนั้นชะงักแล้วดับสลายไป ก่อนจะพยายามปรับตัวให้เป็นปกติราวกับปิดบังเรื่องบางอย่างเอาไว้


แทนที่จะคิดเรื่องของคนอื่นเขาจึงกลับเข้าไปในตัวบ้านเพื่อทำอาหารเย็นของตัวเอง เหมือนทุกวันที่แต่ละมื้อจะเป็นอาหารแช่แข็งที่เขาตุนเอาไว้ แม้มันจะไม่ดีอย่างที่ใคร ๆ ว่า แต่ใครสนกันล่ะ..





ทำงาน.. อย่างน้อยพรุ่งนี้ก็วันเสาร์ไม่ต้องทำงานหนัก





กิน.. กินแต่ของเดิม ๆ อยู่ดี





แล้วในคืนวันศุกร์เช่นนี้มันถึงเวลาที่จะต้องพักผ่อนหรือยังนะ





กลับมาทำงานต่อจนเวลาล่วงเลยเข้ามืดค่ำ เขามีเวลาเพื่อพักผ่อนเหลือเฟือแต่กลับเอาแต่ทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง และวิธีคลายเครียดที่เขาคิดว่าดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการอาบน้ำ การที่ปล่อยให้สิ่งสกปรกไหลไปตามน้ำ ไม่ใช่เพียงแค่นั้นแต่น้ำเย็น ๆ จะช่วยชำระล้างความตึงเครียด ความกังวล อารมณ์ขุ่นมัวภายในใจบางอย่างออกไปแทบหมดสิ้น อย่างน้อยก็คงช่วยให้ผ่านพ้นคืนนี้ไปได้


จัดการธุระของตัวเองเสร็จแล้วก็สำรวจรอบตัวบ้านอย่างที่เคยทำเป็นประจำทุกคืน จัดการปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อยแล้วเตรียมตัวกลับเข้าห้องไป แต่..





ติ๊งต่อง~




คุณ..”


เจ้าของบ้านแปลกใจไม่น้อยที่เห็นเพื่อนบ้านมาหาในยามวิกาลเช่นนี้ เสื้อผ้าที่เปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นชุดลำลองสบาย ๆ นั่นก็ทำให้เด็กผู้ชายคนนี้สดใสสมวัย แต่แววตาที่ช้อนมองคนสูงกว่านั้นกลับให้ความรู้สึกที่ประหลาด มันทั้งแน่วแน่แต่ในขณะเดียวกันมันก็วอกแวกคล้ายกับไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง


คุณครับ..”


มีธุระอะไรครับ ?”


เอ่อ.. ผม.. มีเรื่องอยากจะให้คุณช่วย


เรื่อง ?”


คุณ..”


“…..”


คุณอาจคิดว่ามันแปลก แต่ในเมื่อมันเป็นอย่างนั้นแล้วและผมไม่สามารถแก้ไขมันได้ด้วยตัวเองจริง ๆ ผม..”


คุณอยากให้ช่วยอะไรครับ ?”


เขาไม่อยากเสียมารยาทแต่เวลานี้มันก็ไม่ควรมาพูดอ้ำอึ้ง หากมองกลับกันแล้ว เพื่อนบ้านวัยรุ่นตรงหน้าเขาควรจะกลับไปนอนแทนที่จะมาทำตัวเสียมารยาทรบกวนคนอื่นในยามนี้


“…..”


ถ้าคุณไม่พูดความต้องการของคุณให้ชัดเจนผมจะปิดประตูแล้วนะครับ


เดี๋ยวครับคุณ!”


“…..”


คุณครับ.. ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง


“…..”


คุณช่วยมีอะไรกับผม..”


ทันทีที่คำขอนั่นหลุดออกมาจากปากของเพื่อนบ้านเขาก็ปิดประตูใส่หน้าอีกคนแทบไม่ทัน เขาไม่รู้หรอกว่าสีหน้าของอีกคนจะเป็นอย่างไรในตอนที่เขาปิดประตูลง แต่เขาเองที่หัวใจกำลังจะหยุดเต้น ความไม่ธรรมดาของสถานการณ์ในขณะนี้ทำให้บรรยากาศทุกอย่างราวถูกแช่แข็งให้อยู่กับที่ หัวสมองที่เหนื่อยล้ายังคงประมวลผลคำพูดที่วนเวียนไปมาไม่หยุดหย่อน

คุณ..”


เปิดประตูบ้านออกไปก็เจอกับแผ่นหลังเล็กที่กำลังห่างออกไป แต่เมื่อได้ยินเสียงเรียกก็หันกลับมาด้วยความงุนงง ใบหน้าใสซีดเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของอีกคน คนอายุน้อยกว่าพยักหน้าให้เขาราวกับเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการแล้วหันหลังกลับไปก่อนจะก้าวขาเดินต่อ


ผมว่าเราต้องคุยสักหน่อยแล้วล่ะ


เด็กหนุ่มคิดว่าบรรยากาศภายในตัวบ้านที่มีคนสองคนนั่งอยู่ที่โซฟารับแขกนั้นช่างหนาวเหน็บยิ่งเสียกว่าตอนที่ยืนทำใจหน้าประตูบ้านของเพื่อนบ้านก่อนจะตัดสินใจกดออดเรียกอีกคนเสียอีก แววตาจากเจ้าของบ้านกำลังทำให้คนตัวเล็กห่อไหล่ลงไป มือบางกุมกันไว้แน่น เหงื่อเม็ดใสผุดพรายขึ้นตามไรผม


มีอะไรอย่างนั้นเหรอครับ?”


ผู้มาเยือนทำใจกล้าเงยหน้าสบตาอีกคนแล้วพยักหน้าเบาบาง น้ำตาเจ้ากรรมพาลจะไหลออกมาเพราะเขาอายเหลือเกินที่จะต้องทำแบบนี้ มันไม่ยุติธรรมเลย..


แค่คุณต้องการ.. คุณก็ขอคนอื่นไปทั่วอย่างนั้นเลยเหรอ?”


คุณ!”


ร่างสูงหันมามองแล้วถามเสียงต่ำราวกับกำลังดูถูกในตัวของเด็กน้อยตรงหน้า สายตามองเพื่อนบ้านอย่างที่ไม่เคยใช้มองใคร สายตาที่ไม่เคยสนใจใครแต่กลับจ้องเพื่ออยากได้คำตอบจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม สายตาตำหนิชวนให้อึดอัดกับบรรยากาศที่เป็นอยู่ ดวงตากลมสบกลับไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ความกล้าหาญในตอนแรกพังทลายลงไปเพียงเพราะคำพูดขวานผ่าซากของผู้ใหญ่คนนี้


ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ


คุณรู้เหตุผลที่ผมให้คุณเข้าบ้านไหม


ผมไม่ทราบ

เด็กหนุ่มส่ายหน้าเบา ๆ ดวงตาเย็นชาของอีกคนทำให้เขาอยากจะตายลงไปตรงนี้ รู้สึกว่าร่างทั้งร่างกลายเป็นแผลจากคำพูดจาที่ตรงไปตรงมาแบบนั้น เขาก็แค่มาลองในสิ่งที่มันจำเป็นสำหรับชีวิตเขาก็เท่านั้น เพียงแค่ไม่มีมัน ชีวิตของตัวเองก็จะสุขสบายแล้วแท้ ๆ


มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาขอให้ผมมีอะไรด้วย..”


มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยสินะครับ


มันไม่ใช่เรื่องปกติ ผมมั่นใจได้ว่าเด็กที่ดูเฉลียวฉลาด ได้เรียนหนังสือในโรงเรียนมีชื่อเสียงอย่างนั้นคงไม่ทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้แน่ บอกผมมาว่าเหตุผลของคุณคืออะไร?”


“..ผมเป็นฮิสทีเรีย


ชายหนุ่มที่ไล้ต้อนเพื่อนบ้านเสียจนมุมบัดนี้แทบจะเสียหลักและถอยหลังกลับไม่ทัน ราวกับมือเล็กนั่นกำลังจ่อมีดเล่มบางเย็นเฉียบไว้ที่คอของเขาฉับพลัน เด็กคนนั้นตอบสวนกลับมาอย่างที่เขาไม่เชื่อว่าจะได้ยินจากปาก


ตอนผมยังเด็ก มันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมามากมายเหลือเกินในชีวิตของผม ผมอยู่อย่างสุขสบายท่ามกลางสิ่งผิดกฎหมายเป็นสิ่งรองรับอยู่โดยที่ผมไม่รู้ หมอบอกว่าที่ผมเป็นแบบนี้เพราะผมต้องทนเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น และได้ยินในสิ่งที่ไม่ควรได้ยิน เจอในสิ่งที่ไม่ควรได้เจอ มันสะสมบ่มเพาะจนเกิดเป็นโรคบ้า ๆ นี่ทั้งที่ผมไม่ได้รู้ตัว เมื่อก่อน.. มันไม่ได้เป็นอย่างนี้ ผมแค่เอาแต่เก็บตัว แต่ตอนนี้มันมีบางอย่าง บางอย่างที่ไม่สามารถปล่อยให้มันอยู่เฉย ๆ แล้วหายไปเองได้ ผม.. แค่อยากบรรเทามัน


ผมถามตรง ๆ เลยนะ คุณก็เรียนรู้การที่จะอยู่กับมันมานานแต่คุณช่วยตัวเองไม่เป็นเลยเหรอ?”


แก้มเนียนของเพื่อนบ้านตัวเล็กขึ้นสีระเรื่อเมื่อฟังคำถามของอีกคนจบ ดวงตากลมก้มลงมองมือของตัวเองแล้วเบือนหน้าหนีพร้อมพูดเสียงแผ่ว


ผม.. ช่วยเป็น แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งอื่น ผมลองแล้วมันไม่ได้ผล.. ยิ่งทำ ก็ยิ่งต้องการ


มือบางยกขึ้นมาปกปิดใบหน้าของตัวเองด้วยความอายแสนอาย เขาจำเป็นต้องตอบไปตรง ๆ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเจ้าของบ้านมีหวังโยนเขาออกจากบ้านแน่หากยังคงพูดอ้อมไปอ้อมมา ไม่ก็อ้ำอึ้งเหมือนในตอนแรก ทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาจะช่วยหรือไม่


แล้วทำไมต้องเป็นผม


ผมไม่ทราบ.. แต่รู้ตัวอีกทีผมก็พูดมันกับคุณไปแล้ว


ใบหน้าคมคายดูมีแววกระตุกเล็กน้อย เขายันตัวขึ้นมานั่งดี ๆ แล้วมองอีกคนนิ่ง เด็กหนุ่มที่แทบจะไม่อยู่ในสายตาของเขากำลังวิตกอย่างเห็นได้ชัด มือเล็กนั่นขยุ้มขากางเกงจนมันยับไปหมด เหงื่อที่ยังไหลออกมาต่อเนื่องเจ้าตัวจัดการด้วยหลังมือเช็ดไปพลาง ๆ ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออก  ปัญหา ของเด็กแต่วิธีแก้ไม่เด็กแบบนี้ เขาจะทำอย่างไร


ผมไม่เข้าใจคุณหรอก ขอโทษด้วยผมทำมันไม่ได้หรอก


น้ำเสียงเย็นกำลังตัดความหวังของอีกคนไปให้ขาดสะบั้นลง ร่างสูงของเจ้าของบ้านตั้งใจจะลุกขึ้นไปในใจหวังให้อีกคนเดินตามมาที่หน้าประตู กะว่าจะส่งแขกตัวน้อยกลับบ้านอย่างใจเย็นและทุกอย่างจะผ่านไป


ผมไม่ได้ขอให้คุณเข้าใจเลยนะ ก็แค่..”


ผมเสียใจด้วยจริง ๆ


คุณจะให้ผมไปขอที่บ้านอื่นเหรอครับ?”


กับผมนี่มันก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ แทบจะเรียกได้ว่าคนแปลกหน้าเสียด้วยซ้ำ


เขาลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วก้าวเท้าเดินไปทางประตูบ้าน หันไปมองร่างเล็กที่ยังนั่งที่โซฟารับแขกแล้วส่ายศีรษะให้กับเด็กหนุ่ม เขาตั้งใจให้อีกคนกลับบ้านไปทบทวนและหาทางออกทีดีกว่า หมายถึงดีกว่าที่จะมาทำแบบนี้


มันก็แค่เซ็กส์ไม่ใช่เหรอครับ


เขาหยุดชะงักนิ่งกับประโยคที่ดูคล้ายเย้ยหยันนั้นแล้วหันมามองอีกคนที่ลุกขึ้นจากโซฟา แต่ท่าทีอีกคนกลับกลายเป็นว่าดวงตานั้นคลอเต็มไปด้วยหยาดน้ำใสชวนให้รู้สึกสลดตาม แม้เขาเป็นคนที่ไม่สนใจโลกภายนอกอะไรมากนักแต่เขาก็ยังมีศีลธรรมและความเป็นมนุษย์มากพอที่จะไม่ทำอะไรบ้า ๆ ลงไปเพียงเพราะการวอนขอ เว้นเสียแต่นั่นจะเป็นการช่วยเหลือและปลดเปลื้องความทุกข์ทรมานของสิ่งมีชีวิตตัวน้อย เพราะพระเจ้าเลือกให้เขาเกิดมาเจอกับเรื่องเลวร้ายตั้งแต่วัยเยาว์ มันก็สมควรแล้วที่วิธีการแก้ปัญหาของเด็กคนนี้จะต้องเป็นเรื่องที่ ผิดศีลธรรม แต่ในทางกลับกัน มันก็จะจบปัญหาทุกอย่างและเขาไม่ควรที่จะให้ ตัวปัญหา ที่ตัดสินใจย่างกรายเขามาหาเขาต้องไปสร้างความเดือนร้อน ความลำบากใจให้ใครที่ไหนอีก





นั่นสินะ มันก็แค่





คุณพูดอะไรออกมารู้ตัวไหม เมื่อเห็นอีกคนก้มหน้าก้มตาจึงพูดต่อ


“…คุณ คุณอายุเท่าไร?” ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วตั้งสติพูดกับอีกคนด้วยถ้อยคำที่ชัดเจน พยายามไม่ให้มีท่าทีดูห่างเหินจนกลายเป็นความอึดอัดไปมากกว่านี้


.. ผมสิบหก


ถึงจะเป็นอย่างนี้ก็มีความกระดากอายเช่นคนทั่วไป แต่ในสิ่งที่เขาเป็นและเผชิญอยู่ในตอนนี้เขากลับมองหาทางสว่างที่จะไปต่อไม่ได้ ยิ่งความปั่นป่วนในกายหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยได้พบเจอแล่นปราดทั่วร่างด้วยความรวดเร็วทำให้ต้องรีบหาทางออกให้ตัวเองเร็วที่สุด แม้รู้ว่าต้องทำเช่นไรแต่เมื่อลองแก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียวสุดความสามารถของเด็กมัธยมปลายที่ไม่ได้เจนจัดในเรื่องอย่างว่าสุดความสามารถแล้วแต่มันก็ไม่เป็นผล ซ้ำยังรู้สึกต้องการมากขึ้น หัวสมองขาวโพลนของคนกำลังจะหมดหนทางพยายามขบคิดหาทางออกให้เร็วก่อนที่จะรู้สึกตายทั้งเป็น ขณะนั้นรู้เพียงแต่ต้องหาที่พึ่งพาและใครก็ได้ที่เข้ามาในความคิดขณะนั้นและคนแรกที่คิดถึงก็คือ เขา


ในเมื่อคุณจะทำแบบนี้ ถ้าผมตัดสินใจช่วยก็อย่าหาว่าผมใจร้ายกับเด็กอย่างคุณเลยนะ


ประโยคที่ได้ยินดั่งสวรรค์ยื่นมือลงมาฉุดรั้งชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะจมดิ่งสู่เหวลึกของนรกที่แสนจะทรมาน ดวงตาเศร้าหมองมีประกายขึ้นมาอีกครั้ง แม้สิ่งที่กำลังจะทำต่อไปในทางเป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าที่ควร


ขอบคุณครับ ขอบพระคุณจริง ๆ ผม..ผมจะไม่บอกใครแค่คุณมีความกรุณาช่วยเหลือผม..”


เสียงใสพยายามพร่ำบอกให้อีกคนสบายใจ แต่แล้วฝ่ามืออุ่นร้อนนั้นก็คว้ามือบางเอาไว้แล้วเดินนำทางไป อย่างน้อยเด็กหนุ่มก็รู้สึกโล่งใจที่ความทรมานของเขาก็จะได้รับความปลดปล่อยในไม่ช้า ตัวเขาเองจะดำเนินชีวิตผ่านไปได้อีกหนึ่งวัน แม้ว่าหลังจากถึงที่หมายที่คนตรงหน้าเดินนำไปจะเจอกับอะไรก็ตาม เพราะนี่คือสิ่งที่เขาเลือกและจะรับผิดชอบความผิดพลาดของชีวิตด้วยตัวเอง


ขาเล็กหนีบเข้าหากันแน่นในขณะที่คนอายุมากกว่าก็สังเกตอากัปกริยาของอีกคนจากอุณหภูมิมือที่เย็นเฉียบราวกับกำลังจะถูกเชือด คนตัวเล็กไม่กล้าแม้แต่กุมมืออีกคนกลับได้แต่ให้เจ้าของพาเดินเข้าไปในห้องอย่างเชื่อง ๆ ราวสัตว์เลี้ยงตัวน้อย หัวใจเต้นตุบตับรัวเร็วเสมือนเด็กแรกเกิด เด็กผู้น่าสงสารจะถูกพัดพาไปทางไหนต่อจากนี้ก็ไม่มีใครรู้


ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก





                ไม่มีอะไร น่ากลัวเลยสักนิด..





เตียงนอนขนาดใหญ่ยุบตัวลงเมื่อเจ้าของห้องนั่งลงที่ขอบเตียง เบาะนุ่มถูกตบเบา ๆ เป็นเชิงเรียกอีกคนให้เข้ามานั่งใกล้กัน เพื่อนบ้านเดินเข้าไปนั่งอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ  ระยะห่างที่ร่างเล็กทิ้งไว้นั้นทำให้คนอายุมากกว่าต้องขยับเข้าไปใกล้แทน กลิ่นผิวของเจ้าตัวลอยเข้ามากระทบจมูกเนื่องจากความใกล้ที่ร่นเข้ามา ต้นแขนแกร่งสัมผัสกับเนื้อนิ่มของเด็กหนุ่มมากขึ้นเมื่อเขาเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ แปลกที่เหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่างของชายหนุ่มราวกับเขากำลังจะมีสัมพันธ์ทางกายกับใครสักคนเป็นครั้งแรก..





น่าจะคิดไปเองมากกว่า..





เป็นแบบนี้แล้ว.. คุณยังเชื่อใจผมไหมเจ้าของบ้านภามเสียงเรียบ


ผมเชื่อคุณ


แม้จะอายแสนอายที่ต้องเปิดเผยเรือนร่างให้ใครได้เชยชมเป็นครั้งแรก แต่เขาก็ท่องไว้เสมอ หากเขาไม่เชื่อใจคนที่เขามาหาด้วยตัวเอง แล้วในโลกแสนโหดร้ายที่บิดเบี้ยวของเขาล่ะ ยังมีใครทีพอจะเชื่อใจได้อีกไหม


ร่างโปร่งบางกำลังอวดผิวกายขาวเนียนให้ผู้ใหญ่นั่งจ้องตาเป็นมันอยู่บนเตียง กางเกงขายาวเนื้อดีถูกร่นลากลงไปตามขาเรียวโดยเจ้าของ ร่างนั้นนั่งลงข้างอีกคนเช่นเดิมแล้วปล่อยให้เหลือเพียงชั้นในตัวเล็กที่เจ้าตัวยังไม่กล้าจะปลดมันออกจากร่างกาย สายตานิ่งจากอีกคนทำให้ขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง ไม่ทันได้คิดอะไรมากมายร่างสูงนั้นก็โน้มตัวลงมาหากัน เอียงคอดูเชิงจากคนไร้ประสบการณ์ว่าจะตอบสนองกันอย่างไร เด็กข้างบ้านจ้องตาเขาแล้วมองที่ปากนั้นก่อนจะเบี่ยงตัวไปด้านข้างเล็กน้อย เร็วเท่าความคิดริมฝีปากนั้นแตะต้องกันแผ่วเบา แต่เพียงเท่านี้เพื่อนบ้านตัวน้อยของเขาก็สั่นเทิ้มไปทั้งกาย มือใหญ่เคลื่อนขึ้นมาจับไหล่ลาดบางเอาไว้ไม่ให้เด็กน้อยตื่นกลัวไปมากกว่านั้น มืออีกข้างประคองต้นคอสวยไว้เพื่อไม่ให้หลีกหนีขั้นตอนที่จะนำพาสู่วังวนของความใคร่โดยสมบูรณ์


ร่างใหญ่เอนกายทาบทับอีกคนที่เคลื่อนคล้อยนอนลงบนเตียง ยิ่งยามที่อยู่ใต้ร่างของเขาเช่นนี้.. คนตรงหน้ายิ่งดูตัวเล็กลงไปอีกหลายเท่า





และหวานเป็นที่สุด..










…The Boy Next Door…





ผมจะขอ..”


ฝ่ามือนุ่มถูกกดจูบลงไปราวกับขออนุญาตเจ้าของมัน ท่อนแขนเล็กเรียวไร้เรี่ยวแรงเหตุเพราะจมูกคมที่ไล่สูดดมความหอมหวานของร่างกายเด็กหนุ่ม ผิวเนื้ออ่อนบริเวณต้นแขนด้านในกำลังถูกดูดดึงจากริมฝีปากร้ายกาจ


"แล้วแต่คุณ.. ฮะ..ฮื้อออ"


ลำคอเนียนระหงเชิดเด่นอยู่ตรงหน้า จมูกโด่งซุกไซร้สำรวจความหอมหวานของอีกคนอย่างใจเย็นแต่ซอกคอขาวไม่ได้เต็มไปด้วยรอยสีก่ำประปรายตามแรงอารมณ์ของเจ้าของบ้าน แต่กับของคนที่ไม่ปกติกำลังปะทุขึ้นสูง เขาไม่อยากจะทำให้กายบางตรงหน้าต้องมาบอบช้ำเพราะความใจร้อน อาการที่อีกคนเป็นอยู่ทำให้เขาต้องละเมียดละไมทุกขั้นตอนไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป และอาจดำเนินไปด้วยท้วงทำนองธรรมดา ๆ


"..อ่าา ค..คุณ"


ลิ้นอุ่นชื้นแตะสัมผัสชิมผิวกายบางที่ละส่วนอย่างค่อยเป็นค่อยไป มือสากลากไล้ทั่วผิวเนียนละเอียดราวกับไม่เคยต้องมลพิษใด ๆ มาก่อน กลิ่นหอมรัญจวนตราตรึงทุกอณูความรู้สึกแม้กลิ่นบางเบานี้จะเป็นเพียงกลิ่นอ่อนหวานของสบู่ธรรมดาที่ใครต่อใครก็ตกหลุมรักเอาได้ง่าย แต่กลับให้ความรู้สึกอึดอัดจากความเย้ายวนและได้รับความผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กัน ความสะอาดใสบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่มใต้ร่างนั้นมากเกินไปจนสามารถรับรู้ได้ว่าครอบครัวต้องอบรมเสี้ยมสอนมาเป็นอย่างไร ประคับประคองเด็กคนนี้ด้วยความรักมาตลอดจนกระทั่งเติบโตเป็นหนุ่มน้อยวัยสิบหก แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจอยู่ดีว่าทำไม คนที่ควรไร้ที่ติถึงได้ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้





มันต้องมีอะไรมากกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายเล่าให้ฟังอยู่แล้ว..





ลมหายใจเจือไอร้อนเคลื่อนแตะชโลมไปทั่วกายขาวเนียนช้าเฉื่อยราวกับผงน้ำตาลละเอียดที่ค่อย ๆ ลอยล่องประดับลงบนหน้าขนมหวานชั้นเลิศ เพิ่มความน่ามอง น่าสัมผัส น่าลิ้มลองไปทุกสัดส่วน เด็กหนุ่มในยามนี้ก็เช่นเดียวกัน...





ช่างน่ามอง...





น่าสัมผัส...





น่าลิ้มลอง...





"อื้ออ!"


ริมฝีปากกดจูบลงใกล้ฐานยอดอกแผ่วเบาก่อนจะครอบครองส่วนอ่อนไหวบนแผงอกบางไว้แล้วดูดดุนอย่างใจเย็น ลิ้นอ่อนนุ่มโลมเลียพลิกพลิ้วแกมหยอกล้อแต่ยังคงควบคุมจังหวะไว้เนิบนาบราวกับจะให้คนถูกปรนเปรอขาดใจตายเสียให้ได้ ร่างเล็กบิดเร่าสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความต้องการที่มีมาตั้งแต่ต้นโดนสัมผัสช้าเฉื่อยแตะต้องช่วยทำให้ความร้อนรุ่มที่รุนแรงในกายลดลงไป แต่สิ่งที่เข้ามาแทนไฟราคะที่ควบคุมได้ยากนั้นคือความรู้สึกอ่อนหวานอย่างประหลาด จนรู้สึกดีเกินไป


กายบางแอ่นเข้าหาสิ่งเร้านั้นแทบจะไม่เหลือช่องว่างให้แม้อากาศรอบตัว ร่างเล็กสั่นเทากับความหวามไหวที่ไม่คุ้นเคยเอาเสียจนต้องร้องครางหวานแผ่วเบาเป็นการปลดเปลื้องความรู้สึกประหลาดที่เกิดจากริมฝีปากบางของเจ้าของบ้าน ความอุ่นชื้นเคลื่อนไล้ทั่วแผ่นอกเล็ก เนื้อหวานตรงหน้าเรียกร้องให้สถาปนิกหนุ่มขบกัดมันลงไปด้วยความมันเขี้ยว รอยห่อเลือดตามอกบางและผิวหัวไหล่เนียนชวนให้กดจูบย้ำลงไปราวกับมันบรรเทาความเจ็บแสบได้


ก่อนที่ริมฝีปากร้อนรุ่มจะประทับลงบนขมับอย่างเน้นย้ำว่าสิ่งที่เขาต้องเจอต่อไปมันอาจไม่ได้สวยงามมากนัก อาจจะทำให้ร่างเล็กสั่นกลัวมากกว่านี้หลายเท่าก็ไม่อาจทราบได้ และเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าเด็กคนนี้จะอดทนสัมผัสของเขาไปได้นานแค่ไหน เมื่อใกล้ถึงจุดนั้นเด็กหนุ่มอาจกลัวและหนีไป หรือแม้จะขอให้เขาหยุด เขาก็ต้องหยุด





สิ่งที่กระทำได้เพียงอย่างเดียวคือการตักเตือน





ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลย





จมูกคมแตะลากผ่านกึ่งกลางแผ่นอกมาจรดหน้าท้องแบนขาวเนียนที่เชิญชวนให้เขาฝังจมูกคมลงไปแตะต้อง บดรอยจูบทั้งหนักเบาบนเนื้อผิวนวลนุ่มเช่นเดียวกับผิวเนียนบนอกเล็ก นิ้วเรียวยาวกดลากตามสีข้างแผ่วเบาแล้วตรึงสะโพกบางไว้ ริมฝีปากนุ่มหยุ่นแตะไปทั่วบริเวณท้องน้อยพลางใช้นิ้วเกี่ยวซับในตัวบางออก มือสวยดึงปราการสุดท้ายด้วยสัมผัสบางเบาลากไล้ไปตามเรียวขาขาว ดวงตาคมคอยจับจ้องไปทุกส่วนที่เขาสัมผัส รอยสีหวานที่ไม่อยากให้เด่นชัดพวกนั้นช่างสวยงามเหมาะกับผิวขาวของอีกคนเหลือเกิน


ริมฝีปากสัมผัสลงที่ต้นขานิ่มด้านในทั้งสองข้างแล้วเคลื่อนไปใกล้จุดกลางลำตัวของอีกฝ่ายที่มันกำลังแข็งขืนตามความต้องการเหลือล้นของตัวเองเต็มที่ก่อนจะจูบทักทายสิ่งนั้นอย่างไม่นึกรังเกียจ ฝ่ามือเรียวค่อย ๆ กอบกุมความอ่อนไหวของร่างเล็กไว้อย่างเบามือ ดวงตาคนที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนมองร่างน้อยที่บิดเร่าเนื่องจากความกระสันด้วยความเอ็นดู เด็กน้อยใต้ร่างเลือกที่จะยกมือขึ้นมาขยุ้มไหล่กำยำของอีกคนไว้แน่นหนาเสียจนเกิดรอยแดง ริมฝีปากอิ่มถูกบดเบียดเค้นคลึงด้วยแรงปรารถนาอีกครั้ง ลิ้นร้อนพัวพันดึงดันลิ้นอ่อนนุ่มไร้จริตไม่ถอยห่างไปแม้เพียงวินาที ความนุ่มหยุ่นแนบแน่นสร้างประสบการณ์อ่อนหวานให้เด็กหนุ่มได้ไม่ยาก ถึงกระนั้นความร้อนแรงที่กำลังจะประทุของส่วนล่างก็มีเพิ่มมากขึ้น.. มากขึ้น..


มือใหญ่รูดรั้งแกนกายขนาดเหมาะสมกับเจ้าตัวขึ้นลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้น หน้าท้องเรียบกระตุกเกร็งยามที่อีกคนกอบกุบความหวามไหวนั้นไว้แน่นขึ้น น้ำซึมส่วนปลายกำลังปริ่มออกมาจนฝ่ามืออุ่นร้อนต้องเร่งจังหวะอย่างรวดเร็วไปพร้อม ๆ กับลิ้นที่ตวัดชิมความหอมหวานจากโพรงปากอย่างไม่รู้สิ้นสุด


เพราะไม่สามารถหาช่องว่างระบายเสียงครางกระเส่าออกมาได้แม้แต่น้อย เด็กหนุ่มจึงทำได้เพียงส่งเสียงอึงอื้อในลำคอ และในเมื่อจุดอ่อนไหวสู้มือของอีกคนขนาดนี้ใบหน้าขาวก็ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีระเรื่อ มือเล็กบีบไหล่คนอายุมากกว่าแน่นราวกับถ้าปล่อยให้หลุดไปจะต้องตกลงไปในหลุมลึกที่ตัวเองร่วมขุดขึ้นมา ทั่วท้องน้อยวูบวาบอย่างไม่ชอบใจนักและก่อนที่หมดลมหายใจ ริมฝีปากร้ายกาจนั้นก็ผละออกไปทันท่วงที..


"รู้สึกสบายตัวขึ้นบ้างไหม"


ปากร้อนกดลงที่ข้างแก้มนิ่มเป็นเชิงปลอบประโลมและบอกย้ำให้เชื่อใจเขา เด็กน้อยตรงหน้าหอบเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ ริมฝีปากอิ่มขึ้นสีสดเผยออ้าส่งเสียงน่าอายออกมาแผ่วเบา คิ้วสวยขมวดเข้าหากันแน่นเช่นทุกครั้งที่ต้องช่วยเหลือตัวเองยามที่อาการนี้ของโรคกำเริบ ดึงร่างหนาเข้ามาและโอบรอบคอไว้แน่น เสียงหวานแจ่มชัดหากแต่ผะแผ่วราวคนใกล้สิ้นลมเต็มที


"ผม.. อื้อออ.. เร็วอีก"


เจ้าของบ้านทำตามใจที่อีกคนบอกไปไม่อิดออด สายตาร้อนเร่านั้นมองดวงหน้าหวานไม่วางตา ปกติเด็กหนุ่มคนนี้ก็มีหน้าตาน่ารักน่าชังมากกว่าเด็กชายทั่วไปอยู่มาก และเพราะโรคที่เขาเป็นหรือเปล่าถึงทำให้ยามถูกปรนเปรอเช่นนี้ สีหน้า ท่าทาง ร่างกายแสดงออกมามากหากแต่เจ้าตัวก็ยังด้อยประสบการณ์ มันดึงดูดแรงสวาทของชายหนุ่มให้กำลังปะทุและมีความรู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าน้ำใจที่ต้องช่วยเหลือชีวิตน้อย ๆ เช่นนี้ ทั้งที่ตอนแรกมันก็แค่ ชั่วคราว


"อึก!. อืออ.. อื้อออ!"


"ปล่อยออกมาเลย.."


".. คุณจะเปื้อน.. อ่าาา"


"ไม่เป็นไร.. เด็กน้อย"


"อ๊าาา!..


ใช้เวลาเพียงไม่นานเด็กหนุ่มข้างบ้านก็ปล่อยคราบคาวความใคร่ออกมาทุกหยาดหยดพร้อมครางสุดเสียง หน้าท้องแบนราบเปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีขาวขุ่นที่เมื่อเจ้าตัวมองเห็นมันแก้มใสก็ซับสีเลือด เบือนหน้าหนีเล็กน้อยแม้อกบางยังคงหอบกระเพื่อมเชิญชวนให้อีกฝ่ายลิ้มลองมากเพียงใดก็ตาม นิ้วเรียวค่อย ๆ เช็ดของเหลวพวกนั้นออกแล้วป้ายไปที่ช่องทางบอบบางที่ไม่เคยถูกใช้งานเลยสักครั้ง อีกคนที่ยังคงเหนื่อยก็สะดุ้งโหยงเพราะนิ้วมือของผู้ใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามาในตัวเขาทีละน้อย ร่างเล็กถดถอยออกมาทำให้เขาหยุดแล้วเงยหน้าขึ้นมามองคนที่มาขอร้องให้ช่วย..



.. คุณต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอครับ


ทุกอย่างก็เพื่อตัวของคุณเอง


ผมหมายถึงก่อนหน้านี้ ที่คุณจูบผม ค่อย ๆ ทำ.. ทุกอย่าง


ริมฝีปากอ่อนนิ่มแตะลงที่ข้างใบหูเล็กพลางพูดเสียงเบา ข้อสงสัยอีกมากมายของคนที่มาร้องขอถูกกลืนหายไปลงในลำคอ เสียงนุ่มแหบพร่าบอกให้เขาเข้าใจ เด็ก.. ถึงยังไงก็เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ


ถึงจะทรมานแค่ไหน แต่ผมมั่นใจว่าคุณคงอยากให้ครั้งแรกของคุณเป็นความทรงจำที่ดี


คุณรู้ได้ยังไงกันครับ?”


ท่าทางของคุณมันบอก.. แม้ก่อนหน้านี้คุณจะพบเจอเรื่องที่เลวร้ายมามากน้อยแค่ไหน ผมไม่ทราบ ผมจะถามคุณอีกครั้ง.. ”


ผมไม่มีทางเลือก มันไม่มียาตัวไหนช่วยผมได้เลย ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวผมเองแล้วก็ถูกของคุณ..”


คนตัวเล็กทำใจกล้าประทับริมฝีปากอิ่มที่สันกรามอีกคนแผ่วเบา พยายามอดกลั้นความต้องการไว้ไม่ให้ระเบิดออกมาตามที่อีกคนอยากให้เป็น เนื้อคำเชิญชวนถูกเอ่ยออกมาอย่างแสนไร้เดียงสา ไร้ความนัยน์ปิดบัง ดวงตาเขาเหลือบมองดวงหน้าหวานของเด็กน้อยใต้ร่าง แววตาที่ฉายความเด็ดเดี่ยวในหัวใจของเด็กผู้ชายที่แสนบอบบางคนหนึ่งเต็มเปี่ยมและมากมายเท่าที่จะมีได้ และนั่นก็ทำให้เขารู้สึก.. ถูกชะตา





ครั้งแรกของผม.. ผมขอแบบประทับใจหน่อยนะครับ





น้ำเสียงอ่อนหวานครางกระเส่าทันทีที่ร่างสูงเริ่มต้นกดนิ้วเรียวของตัวเองลงไปที่ช่องทางนั้นอีกครั้ง กลีบเนื้ออ่อนนุ่มกำลังกลืนกินนิ้วมือยาวอย่างช้า ๆ แม้มีตัวช่วยให้เข้าไปได้ง่ายขึ้นแต่มันก็ยังฝืดเคืองเพราะความคับแน่นของอีกคนอยู่ดี เสียงหวานขาดห้วงและพร้อมที่จะส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้งที่เขาดันนิ้วเข้าไปด้วยความยากลำบาก เสื้อเชิ้ตสีเข้มชุ่มไปด้วยเหงื่อจากกายที่กำลังจะร้อนเป็นไฟแทนคนที่ถูกปรนเปรอเสียเอง เจ้าของบ้านยังคงจับจ้องปฏิกิริยาจากร่างเล็กตลอดเวลา ใบหน้าขาวซับสีเลือดทั่วหน้าพลางส่ายพัลวันราวกับว่าทนไม่ไหว เขากดจูบลงที่หน้าผากใสให้ผ่อนคลายมากกว่าเดิมก่อนจะแทรกนิ้วที่สองเข้าไปภายใน


.. เจ็บ ผมเจ็บ.. อึก! .. คุณ


รู้ดีว่าปลอบโยนอย่างไรความทรมานเหล่านี้ก็ไม่มีทางหายไปไหนเสีย ทำได้เพียงทนฟังเสียงของความเจ็บปวดที่ร่างบางได้รับไปแล้วกัดฟันอดทนพาคนคนนี้ให้ไปถึงฝั่งฝัน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอบรับข้อตกลงนี้มาได้อย่างไร แต่เมื่อได้ทำไปทำมา ได้ลองสัมผัส.. กลับไม่อยากหยุดการกระทำที่ขัดต่อ ศีลธรรม เช่นนี้เลย


อีกนิ้วนะ..”


สติกระเจิดกระเจิงเกินกว่าจะตามกลับคืนมาทำให้ต้องรอรับความเจ็บปวดที่มากขึ้น นิ้วที่สามแทรกเข้ามาในตัวเพื่อเบิกทาง ผนังเนื้ออุ่นร้อนตอดรัดนิ้วทั้งสามแทบไม่เหลือช่องว่าง ปากช่องทางตึงเกร็งจนเจ้าของทำหน้าเหยเก การรุกล้ำเบิกทางทำให้ร่างบางกระสับกระส่ายอย่างอึดอัด ร่างทั้งร่างดิ้นพล่านเมื่อมือสวยนั้นกำลังขยับเข้าออก ภาวะนี้ของโรคทำให้รู้สึกอยากให้มือนั้นลึกเข้ามาอีกแม้จะเจ็บปวดก็ตาม ต้องการมากขึ้น.. มากกว่านี้อีก..


เขาพาเด็กน้อยไร้ประสบการณ์ก้าวผ่านความเจ็บปวดและกำลังจะแปรเป็นความเสียวซ่านที่พวยพุ่งออกมา ผนังเนื้อนิ่มรัดรึงนิ้วมือของเขาชวนให้แกนกายของชายหนุ่มเริ่มปวดร้าว เหงื่อเม็ดโตผุดพรายขึ้นเหนือหน้าผาก ผมสีเข้มถูกเจ้าของสางเสยขึ้นเพื่อไม่ให้บดบังสายตาของตน เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มชื้นไปด้วยเหงื่อไคล เด็กหนุ่มที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นพยายามปรือตามองคนตรงหน้าให้มากที่สุด เพราะเขาอยากเห็น...


ทำไมผู้ใหญ่คนนี้ถึงได้ดูดีเหลือเกินในสายของเด็กผู้ชายอย่างเขา ใบหน้าคมคายชวนฝันนั้นรับกับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นดวงตา จมูกโด่งสวย ริมฝีปาก ผมที่เสยขึ้นไปข้างบนเผยให้เห็นหน้าผากแบบนั้น เหงื่อใสไหลรินลงมาตามรูปใบหน้าเรียวสะท้อนกับแสงสลัวของไฟหรี่ดวงเล็กในห้องนอน ลำแขนแข็งแกร่งดูดีขึ้นไปอีกขั้นเพราะผิวขาวโผล่พ้นแขนเสื้อที่เขาพับร่นให้ไปอยู่ที่ข้อศอก แต่แล้วก็ได้หลับตาลงแน่นอีกครั้งเมื่อคนหล่อเหลาตรงหน้ากดย้ำนิ้วเข้าไปสุดความยาว เสียงใสครางอื้อในลำคออีกคราเพราะนิ้วยาวควานไปทั่วภายใน ริมฝีปากร้อนนั้นก็ทำหน้าปลอบประโลมอีกคนที่อยู่อำนาจของเขาต่อไป


" อย่าทรมานผม.. ..ไปมากกว่านี้เลยครับ"


แม้จะเว้าวอนอย่างนั้น แต่ก็อดยอมรับไม่ได้เลยว่ามันเป็นการทรมานที่แสนหวานที่สุดอย่างที่อาจไม่ได้สัมผัสที่ไหนอีก ความใคร่ของเด็กหนุ่มเหมือนเหล็กร้อนที่ต้องตี หากแต่ไม่ได้รับการตีขึ้นรูปสุดท้ายเหล็กนั้นยังคงร้อน.. แต่ไม่สวยงาม





และเขาคนนี้ก็คือช่างตีเหล็กที่ใจเย็นที่สุดในโลก...





"คุณมั่นใจนะว่าเตรียมตัวพอแล้ว"


มองตาคนอายุมากกว่าแล้วพยักหน้าเบา ๆ นิ้วเรียวถอนออกไปแล้วกลับมามองคนใต้ร่างอีกครั้ง ดวงตาใสซื่อมองหลบไปด้านข้างปล่อยให้อีกคนจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง แต่ความอยากรู้อยากเห็นของเด็กก็ไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน เด็กหนุ่มค่อย ๆ เหลือบมองคนที่คร่อมเขาอยู่ ผิวขาวจัดอย่างที่ไม่เคยเห็นที่ใครคนไหนทำให้ตกตะลึงอยู่ไม่น้อย ร่างสูงยืดตัวขึ้นแล้วถอดเสื้อออกไป กายกำยำปรากฏอยู่ตรงหน้าในระยะใกล้ทำให้ใจสั่นมากกว่าเดิมได้ไม่ยาก ผิวขาวตัดกับกางเกงสแล็คสีดำเพิ่มความน่ามองให้ชายหนุ่มคนนี้มากขึ้น


"จะเริ่มแล้วนะ"


อีกครั้งที่เด็กม.ปลายเป็นเด็กน้อยแสนว่านอนสอนง่าย ดวงตาเล็กนั้นหลับพริ้มรอรับสัมผัสวาบหวิว ริมฝีปากร้อนเคลื่อนมาทาบทับที่ปากอิ่มของคนที่ทอดกายแนบแน่น มือบางยกขึ้นดันท้ายทอยเจ้าของบ้านเข้าหาตัวเอง ความทรมานที่แสนรอคอยกำลังจะถูกปลดปล่อยในไม่ช้า


เจ้าของบ้านปลดกระดุมออกจากรังดุมกางเกงของตัวเองพร้อมดึงมันลงไป นิ้วเท้าเล็กของคนใต้ร่างเกี่ยวขอบกางเกงนั้นแล้วพยายามยันมันให้หลุดออกไปโดยเร็ว ความอึดอัดปวดร้าวของชายหนุ่มกำลังจะออกมาเผชิญกับโลกภายนอก ขาเรียวยันอาภรณ์ชิ้นนั้นออกไปได้สำเร็จก่อนจะเกี่ยวรอบเอวของคนข้างบนไว้ ริมฝีปากของคนที่ประสบการณ์มากกว่ายังคงทำหน้าที่ได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย แขนยาวเอื้อมไปหยิบสิ่งจำเป็นต่อการร่วมรักทุกครั้งของเขาในลิ้นชักข้างเตียง และเขาก็จะใช้มันในครั้งนี้ด้วย


ไม่ใช่ว่าเตียงนี้เคยเป็นสมรภูมิมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง กลับกันเด็กหนุ่มที่นอนครางหวิวอยู่ใต้ร่างของเขาต่างหากที่เป็นคนแรกที่ได้รับสิทธิพิเศษมานอนในห้องนอนนี้ และเสร็จนี่เขาคงต้องทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยตัวของตัวเองอีกครั้งว่าทำไม แค่เด็กข้างบ้านทำให้เขาต้องมีข้อยกเว้น


แกนกายของเขาตื่นตัวสูงสุด ความแข็งขืนของมันทำให้ปวดหนึบไปทั่วร่าง แขนแกร่งรั้งอีกคนให้เข้ามาใกล้เขาก่อนจะพาตัวเองเข้าสู่ร่างอีกคนอย่างเนิบนาบและระมัดระวัง แต่เพียงแค่สัมผัสที่ผิวช่องทางเจ้าตัวก็สะดุ้งเฮือก มือเล็กเคลื่อนมาขยุ้มที่ไหล่ของเขาอีกครั้ง เล็บสวยจิกลงไปที่เนื้อไหล่กำยำอย่างไม่เชิงตั้งใจ เขาทำได้เพียงลูบศีรษะทุยปลอบประโลมอีกคนไปพลางจุมพิตหน้าผากเนียนที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ


อดทนหน่อยนะ.. เด็กดี


"อ๊าาา! .. คุณ เจ็บ.. มันเจ็บ"


สิ่งนั้นถูวนที่ช่องทางอีกครั้งแล้วกดมันให้เข้าไปภายใน ความคับแน่นเรียกเสียงครางต่ำจากเขาได้ไม่ยาก เอวสอบพยายามดันความปวดร้าวของเขาให้เข้าไปลึกมากขึ้น ช่องทางไม่เคยถูกรุกล้ำมาก่อนกำลังจะปริตัว ความเจ็บแสบกรูเข้ามาเล่นงานร่างบางอย่างไร้ความปราณี เรียวขาอ้าออกกว้างเพื่อรับความอึดอัดที่มากขึ้นแล่นไปทั่วกระดูกสันหลังให้สาสมกับอารมณ์ใคร่ในกาย อกบางหายใจติดขัดราวกับมีอะไรมาจุกที่กลางอก





ฮิสทีเรีย.. โรคทางประสาทที่มีภูมิเบื้องหลังอยู่ลึกลงไปมากกว่าคำว่าแรงปรารถนาทางกาย โรคที่ใครหลายคนตีตราว่ามีอาการหลักคือความต้องการทางเพศสูง ใครจะคิดว่าความจริงแล้วมันน่าเห็นอกเห็นใจเพียงใด พวกเขาต้องมีอดีตที่แสนขมขื่น ทนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่ซึ่งนำมาสู่อาการทางจิตเช่นนี้ ต้องการความรักความอบอุ่นความใส่ใจจากผู้คนรอบข้างและอาจไม่เกี่ยวข้องกับเซ็กส์มากกว่าปกติแม้แต่น้อย หากแต่สิ่งที่เด็กคนนี้กำลังเผชิญคือผลพวงของโรคที่เขาไม่ได้เป็นคนก่อเกิดเป็นแน่ แม้โรคนี้จะพบผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง.. แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้ชาย จะเป็นไม่ได้เสียหน่อย..





อ๊ะ! อ่ะ.. อื้อออ!”


น้ำตาใสไหลรินลงอาบแก้มกลม ความรู้สึกสับสนตีกันปะปนมั่วไปหมด ทั้งดีใจ ทั้งเจ็บ ทั้งทรมาน เขาแสดงท่าทางไม่ได้มากกว่าการที่จะร้องไห้ออกมาแบบนี้ แม้เป็นเพียงน้ำตาหยดเล็ก ๆ แต่คุณเจ้าของบ้านจะเข้าใจไหมว่ามันมีความหมายและความรู้สึกมากมายอัดแน่นอยู่ภายในนั้น เพราะเมื่อเขาเห็นมันเขากลับหยุดการกระทำทุกอย่างลง นิ้วโป้งใหญ่ไล่เกลี่ยน้ำตาจากดวงตาคู่สวยออกช้า ๆ เสียงทุ้มต่ำกระซิบกับเด็กน้อย


คุณไม่ไหว.. ใช่หรือเปล่า


ผมแค่ดีใจ


ตาคมนั้นจ้องมองเข้าไปในดวงตาใสที่เอ่อไปทั้งน้ำตา เขายิ้มให้อีกคนเบาบางก่อนจะก้มลงไปหาแก้มนิ่มสีระเรื่อน่าดอมดม ความครั่นคร้ามที่เคยมีกำลังพังทลายลงไปพร้อมกับเนื้ออุ่นร้อนค่อย ๆ กดย้ำเข้าไปในกายบอบบางมากขึ้น เขาทำทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปและเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลมหายใจระรวยที่ข้างใบหูทำให้เขารู้ดีว่าคนใต้ร่างพยายามเป็นอย่างมากที่จะทำให้เขาสอดกายเข้าหาได้ง่ายขึ้น สะโพกบางยกตัวแอ่นรับความเจ็บปวดอยู่อย่างนั้น แขนเรียวทั้งสองข้างก็ยังคงโอบรอบคอเขาไว้แน่น


ลมหายใจนั้นขาดห้วงทุกวินาทีที่เขาเข้าใกล้เพื่อสัมผัสความหอมหวานมากขึ้น กลั้นลมหายใจตั้งสติเพื่อข่มตัวตนของตัวเองเอาไว้ลึกสุดในช่องว่างของหัวใจ


ความคับแน่นของผนังเนื้อนิ่มนั่นรัดรึงเขาไว้ทุกทิศทาง ความอุ่นร้อนกำลังจะหลอมละลายร่างทั้งร่างของชายหนุ่มให้หลอมรวมแล้วระเหยไปพร้อมกับอากาศ สะโพกเล็กส่ายรอนตามสัญชาติญาณ กลิ่นกายอ่อนหวานถูกตักตวงด้วยจมูกคมนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่เคยพอใจ ริมฝีปากร้ายกาจนั้นระดมจูบไปทั่วไปหน้าหวานที่เหยเกเพราะความเจ็บ ปากล่างอวบอิ่มโดนดึงดูดเค้นคลึงจากอีกคน ปากเล็กอ้าออกครางกระเส่าในขณะที่ผู้ใหญ่ที่ทาบทับร่างก็ยังคงขบกัดความอ่อนนุ่มนั้นอยู่ มือสวยดันขาขาวให้อ้าออกกว้างมากขึ้นพลางเล้าโลมไปเรื่อย ๆ ไม่ให้เด็กน้อยต้องมาสนใจกับความเจ็บปวดที่ส่วนล่างมากมายนัก


อ๊าาา! อะ.. อื้ออ


ดันกายเข้าไปจนสุด คนเป็นผู้ใหญ่ขบกรามแน่นเมื่อความอึดอัดเช่นนี้มาเยือนเขาอีกครั้งในรอบเวลาเกือบปีที่ผ่านมา เขาคือชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าปีที่มีความต้องการในเรื่องอย่างว่าสูงกว่าในวัยอื่นๆ ตัณหาที่เด็กหนุ่มเป็นฝ่ายหยิบยื่นให้เขามันก็เป็นอีกทางที่ช่วยปลดปล่อยห้วงอารมณ์ความต่ำช้าในมนุษย์ธรรมดาอย่างเขา


.. คุณ.. อ่าา


คนประสบการณ์มากกว่าทำให้ร่างเล็กเบาหวิวอย่างไม่เคยเป็น สิ่งแข็งขืนดุนดันเข้าออกภายในกายของเขามันช่างแข็งแรงและน่ากลัว เด็กหนุ่มไม่เคยคิดฝันว่าตนเองจะสามารถรู้สึกดีได้ถึงเพียงนี้ มันเข้ามาแล้วกดแช่อยู่ในตัวของเขารู้ตัวอีกทีมันก็ขยับเคลื่อนเข้าออก ทุกจังหวะ ทุกท่วงท่ามันทำให้เขาเสียวกระสันได้มากกว่าการช่วยตัวเองหลายเท่าตัว ร่างกายและสมองของเขาขาวโพลนไปหมดแทบจะไม่รู้สึกถึงมืออุ่นของคนด้านบนที่ค่อย ๆ สอดประสานนิ้วเรียวยาวกับนิ้วมือเล็กของตัวเอง


ผมรู้สึกดี.. นะ


..ครับ?”


ความเจ็บแสบห่างหายไป จุดกระสันที่อีกฝ่ายค้นพบกำลังทำให้เด็กหนุ่มเปลี่ยนจุดสนใจ ผมหน้าม้าน่ารักของร่างบางสะบัดขึ้นลงตามจังหวะกระแทกกระทั้นของร่างด้านบน เสียงเนื้อหนั่นกระทบกันรุนแรงดังขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ช่องทางปรับตัวได้ เท้าเล็กเกร็งจิกผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ไปหมด กายเล็กบิดเร่าแต่ยังไม่วายปรือตามองคนข้างบนขยับกายเข้าหาตัวเอง ความเร่าร้อนของผู้ชายคนนี้ มากเกินไป มันมากเกินไป


สายตาคมกริบราวกับมีดที่ทำจากเหล็กชั้นดีนั่นจ้องมองมาหาเขา ลมอุ่นร้อนของลมหายใจจากผู้ใหญ่เรียกร้องให้เพื่อนบ้านตัวน้อยอ้าปากขอจูบแสนหวานสร้างความระทวยให้เขาอีกครั้ง ฟันคมขบปากที่บวมช้ำอีกคราอย่างไม่รู้จักพอ ความน่าสัมผัสของกายบอบบางนี้เชิญชวนให้คนธรรมดาอย่างเขาโลมเลียน้ำตาลที่ตนเป็นคนโรยเอาไว้เองเสียทุกสัดส่วน ความงามยามถูกปรนเปรอนั้นช่างมีเสน่ห์เหลือล้น ดวงตากลมฉ่ำเยิ้มด้วยแรงสวาทมันกำลังร้องขอให้เขากอดและกำลังอ้อนวอนให้เขารัก


สถาปนิกหนุ่มโถมกายลงไปรุนแรงทำให้ร่างเล็กสั่นคลอนเสียจนจมผืนเตียง เสียงครางหวานระงมทั่วห้องกระทบโสตประสาทหลายครั้งต่อหลายครั้ง ความกำหนัดนั้นช่างอันตรายเหลือเกินที่จะต้านทาน เจ็บปวด ทรมาน แต่สุขสมไปทั้งกายในคราวเดียวกัน


อาา! .. ผมว่า..”


เขากดจูบรุนแรงที่ซอกคอขาว เอวสอบเร่งกายเข้าออกรัวเร็วจนลมหายใจเบาบางของร่างเล็กกลับหอบถี่ขึ้นมา สะโพกเล็กดันทุรังสวนกายกระแทกกลับคืนอีกคนหวังให้เขาแตะต้องภายในให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ มือบางกำมืออีกคนไว้แน่นเช่นเดียวกับเขาที่จับมือเล็กไว้แน่นหนาตั้งแรกแรกเริ่ม ด้วยความไว้ใจทั้งหมดของเด็กม.ปลาย


อีกนิดนะ..”


ผมจะ.. อื้ออ!”


อีกครั้งที่ความอ่อนไหวของร่างบางกระตุกแล้วปลดปล่อยคราบคาวออกมา ผนังเนื้อของช่องทางร้อนถูกเสียดสีด้วยเนื้อยางอย่างรุนแรง ข้อเท้าเล็กถูกรวบไว้ด้วยกัน ช่องทางบีบรัดความเป็นชายของชายหนุ่มไว้แน่นกว่าที่เคย เขากระแทกกายใส่อีกฝ่ายอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดหย่อน อาการทางกายของคนเด็กสิบหกกลับปะทุสวนกลับขึ้นมา อดไม่ได้ที่ต้องร้องครางลั่น มือใหญ่นั้นปล่อยจากข้อเท้าสวยแล้วรั้งกายบางขึ้นมาไว้แนบอก เอวเล็กถูกโอบรัดด้วยแขนแกร่งแน่นหนา มือของเด็กหนุ่มไม่รู้ว่าจะต้องวางไว้ที่ตำแหน่งใดก็ค้ำหน้าขาของเจ้าของบ้านผู้แสนร้อนแรงเอาไว้


จะจบแล้วนะ.. อ่า


เสียงแหบต่ำคำรามบอกอีกคนในลำคอแสนยากลำบาก เขารั้งกายเล็กให้กระแทกลงมาอีกครั้ง แกนกายใหญ่กระตุกปลดปล่อยความปวดร้าวออกมามากมาย แต่ร่างบางกลับไม่ได้รู้สึกรับรู้ด้วยเพราะเนื้อยางนั้น เขาค่อย ๆ ถอนกายของตัวเองออกแล้วทิ้งอุปกรณ์ชิ้นนั้นทิ้งไปข้างเตียง ในขณะที่เด็กหนุ่มนอนหงายลงกับเบาะเตียงไปเรียบร้อยแล้ว


เจ็บมากหรือเปล่า?”


.. ผมไม่เป็นไร..”


หอบเอาอากาศหายใจเข้าไปเต็มปอด อกบางกระเพื่อมถี่เสียจนคนอายุมากกว่าอดจะเห็นใจไม่ได้ แต่ปฏิกิริยาทางร่างกายที่เผยขึ้นให้เขาเห็น มันไม่ใช่


ดวงตาใสปรือปรอยไร้เรี่ยวแรง เหงื่อไคลจากเส้นผมยาวไหลลงมาตามโครงหน้าและซึมออกมาทั่วกาย ผิวเนียนละเอียดนอกจากรอยจากการสัมผัสกันก็มีผื่นแดงเป็นจุดเล็ก ๆ ขึ้นตามตัวไม่เว้นต้นขาขาวนั่น ร่างกายบอบบางยังคงกระตุกไม่มากก็น้อย และริมฝีปากอิ่มอ้าหอบเอาอากาศไม่หยุดหย่อน เสียงหวานนั่นกำลังเพรียกหาเขาให้เข้าหาอีกครั้ง


คุณ.. มันยังไม่จบ











นอนพักที่ก็ได้ ผมยินดี


แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะครั..”


ทำตามที่ผมบอกเถอะ


ร่างเล็กนิ่งไปและยอมฟังประโยคที่เหมือนสั่งกลาย ๆ นั้นแต่โดยดี เปลือกตาหนักอึ้งของเด็กน้อยคล้อยลงเพราะความเหนื่อยล้าจากอารมณ์ที่พวกเขาทำมันหลายต่อหลายรอบ ไม่นานนักคนตัวเล็กก็ผล็อยหลับไป ผู้ใหญ่มองเพื่อนบ้านที่หลับไปก่อนจะหยิบทิชชู่บนโต๊ะข้างเตียงมาเช็ดคราบต่าง ๆ ที่พอจะทำความสะอาดได้ให้เรียบร้อย หัวไหล่เนียนมนที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาถูกจูบแผ่วเบาก่อนที่เจ้าของรอยจูบนั้นจะล้มตัวลงนอนข้างกัน...


ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวใหญ่ทั้งสองไม่ได้นอนใกล้ชิดกันขนาดที่จะสัมผัสผิวกายของกันและกัน อาจเพราะคุ้นเคยแค่เพียงร่างกายเท่านั้น และสัมผัสอ่อนนุ่มสุดท้ายที่เขารับรู้คือริมฝีปากอวบอิ่มนั้นเคลื่อนตัวมาแตะลงที่ไหปลาร้าของเขาอย่างแผ่วเบา เสียงหวานยังคงดังก้องในยามราตรีที่มืดมิดไม่มีเปลี่ยนแปลง


ขอบคุณนะครับ ขอบคุณมากจริง ๆ





ไหนว่าอย่าหาว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ใจร้าย ไม่เลยสักนิด เขา น่ะ ใจดีที่สุดในโลกของเด็กม.ปลายตอนนี้เลยต่างหาก





เขาไม่ใช่เด็กบ้านแตก ไม่ใช่เด็กน้อยที่ถูกข่มขืนมาอย่างที่ใคร ๆ เคยเข้าใจ คนพวกนั้นไม่เคยเข้าใจเขาถึงต้องระหกระเหินมาจนถึงที่นี่ ด้วยเงินติดตัวที่ผู้มีพระคุณหนุนหลังอยู่ คนคนนั้นมีน้ำใจต่อเขามากแม้จะเป็นเพียงพ่อบุญธรรมที่รับเขามาเลี้ยงหลังจากที่พ่อกับแม่เสียชีวิตเนื่องจากธุรกิจที่ผิดกฎหมาย สภาพแวดล้อมสมัยเด็กของเขาไม่ได้มีปัญหาสำหรับเขา กลับกันทุกอย่างมันช่างราบรื่นจนไม่คิดว่าสักวันหนึ่งพ่อกับแม่จะทิ้งเขาไปอย่างไม่หวนกลับ ด้วยความช่วยเหลือของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นเด็กที่เลวร้ายเลยรับมาเลี้ยงด้วยความเอ็นดู แต่เขาทนที่จะอยู่ร่วมชายคากับครอบครัวของฝ่ายนั้นไม่ได้ และเพราะตัวเองได้ทำอะไรบางอย่างไปก็เท่านั้นเอง





เด็กนี่.. อ๋อ! พ่อเก็บมาจากซ่องที่พ่อไปทลายมาใช่ไหม?’





อยู่ที่แบบนั้นจะเป็นเอดส์หรือเปล่ายังไม่รู้เลย สกปรกจะตาย





ผอมบางขนาดนี้คงจะรับแขกเยอะสิท่า!’





และคนที่สุขภาพจิตเสียอีกหลาย ๆ คนในบ้านหลังใหญ่ที่ไม่มีความอบอุ่นหลังนั้นก็ยังคงต่อว่า ด่าทอ เสียดสีกันเป็นประจำ ยังดีที่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขา เขารำคาญเสียงแหลมเล็กของคุณนายใหญ่กับลูกสาวคนเล็ก หวาดระแวงลูกชายคนโตเพราะบ่อยครั้งที่เขาแอบย่องเข้ามาในห้องนอนและพยายามจะรังแกกัน เด็กอย่างเขาไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้นอกจากชีวิตที่ต้องเก็บรักษาก็ทำได้เพียงดิ้นรนต่อสู้ มีดพกเล่มเล็กที่บิดาเคยให้ไว้ยังคงไม่ห่างตัวไปไหน มือล้วงเข้าไปที่ใต้หมอนนุ่มกำด้ามมีดไว้อย่างมั่นคง ปลายโลหะคมเฉียดเข้าที่ใต้ตาของอีกคนพร้อมเสียงร้องโอดครวญจากความเจ็บปวดทำให้สมาชิกในบ้านวิ่งกรูกันมาที่ห้องนอนเล็ก ๆ ของผู้มาอาศัยใหม่ และนั่นคงเป็นเหตุผลที่เขาได้ออกมาอยู่คนเดียวโดยถาวร





แกจะฆ่าลูกฉันเหรอ! ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!’





ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ที่ไม่มีการฟ้องร้องคดีความแต่อย่างใด อาจเพราะคุณท่านยังเอ็นดูเขาถึงแม้จะทำร้ายร่างกายลูกชายที่ไม่เอาไหนคนนั้นไป คุณท่านสั่งให้คนจัดหาที่อยู่ให้อีกที่และรับปากว่าจะไม่ให้ฝ่ายนั้นมารบกวนหรือระรานพร้อมทั้งส่งเงินมาทุกเดือน ดูแลเรื่องทุกอย่างเช่นเดิมเหมือนกับตอนที่อยู่กับท่าน


แต่ในวันนี้เขาต้องทิ้งศักดิ์ศรีไว้เบื้องหลังเพื่อความอยู่รอด รู้สึกสมเพชตัวเองเหลือเกินแต่จะทำอย่างไรได้ ร่างกายที่ยังคงมีลมหายใจนี้ยังต้องชดใช้กรรมต่อไป หวังว่าคุณเจ้าของบ้านใจดีคนนี้จะมีความกรุณามากพอที่จะไม่แพร่งพรายออกไปให้ใครรู้ แต่ในขณะเดียวกันเขารู้สึกเหมือนว่าผู้ชายคนนี้พึ่งพาได้อย่างบอกไม่ถูก อีกทั้งบางสิ่งกำลังกู่ร้องจากภายในบอกว่าเขารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เพียงยามได้เอ่ยวาจาสนทนาซึ่งกันและกันแม้นั่นจะเป็นแค่คำว่า สวัสดี





จวบจนกระทั่งตอนนี้





อีกฝ่ายปฏิบัติกับร่างกายของเขาอย่างอ่อนโยนและทะนุถนอมดุจคนรัก ทุกท่วงท่านั้นแสนเร่าร้อนพร้อมที่จะหลอมละลายทั้งกายและหัวใจดวงน้อย ๆ ให้ลงไปอยู่แทบเท้าของเขา ยามอยู่ในอาณัติใต้อ้อมแขนแกร่งนั้นกลับไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ทุกอย่างราวกับสรรค์สร้างมาเพื่อตัวเขาโดยเฉพาะ ดวงตาร้อนแรงที่มองมาทำให้ร่างบอบบางเสมือนโดนเผาเป็นจุล สายตาคมนั้นสำรวจเรือนร่างของเขายามถูกกอดทุกตารางนิ้วเฉกเช่นพิมพ์เขียวของเขาสัมผัสวาบหวิวทั่วกายที่ฝากฝังไว้นั่นก็คือแปลนที่เขาเป็นผู้ออกแบบเอาไว้อย่างชาญฉลาดและหาตัวจับได้ยากที่สุด..





…The Boy Next Door…










ร่างสูงเจ้าของห้องนอนที่สอนบทรักแรกเริ่มให้เด็กหนุ่มข้างบ้านเมื่อคืนตื่นมาด้วยอาการงัวเงียเช่นทุกวัน ดวงตามองพื้นที่เตียงข้างกายที่ว่างเปล่า ผ้าปูที่นอนส่วนนั้นตึงเรียบ หมอนใบนุ่มที่รองรับศีรษะทุยฟูขึ้นสภาพเดิมราวกับไม่มีใครเคยหนุนนอน เขาเดาภาพที่อีกคนนอนอยู่ข้างกันเมื่อคืนลุกฝืนสังขารขึ้นมาแต่เช้าเพื่อนจัดแจงทุกอย่างให้เป็นปกติ กายใหญ่ยันตัวขึ้นแล้วเอนพิงหัวเตียงเอาไว้ เสื้อผ้าขนาดเล็กและทั้งเสื้อผ้าของเขาเองหายไปจากพื้นข้างเตียง การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของร่างเล็กที่ครางหวานอยู่ใต้ร่างของเขาเมื่อคืนนี้มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรไปมากกว่านั้น ฝ่ายนั้นก็คงจะเช่นเดียวกัน คงไม่อยากทำให้เขาต้องลำบากใจแม้เขาจะเต็มใจให้เจ้าตัวนอนค้างที่นี่ทั้งคืนหลังจากความสัมพันธ์ทางกายได้จบลง แต่อย่างน้อยตอนเช้าของพวกเขามันก็ไม่กร่อยจากการหาประโยคต่างๆมาคุยกัน เช่น สวัสดี อะไรทำนองนั้น


เช้าวันเสาร์ของคนวัยทำงานอย่างเขามันก็ไม่ได้ดีอะไรนักหรอก ก็แค่ตารางงานของวันนี้มันน้อยกว่าของวันอื่น ๆทำให้เช้านี้ไมต้องรีบร้อนอะไรมาก แต่ถึงคิดได้อย่างนั้นสมองของเขาก็เอาแต่นึกภาพของคนที่บอกความลับกับเขาเมื่อคืน ดวงหน้าหวานน่ารัก แววตาใสซื่อที่มองมาอย่างเอียงอายเมื่อถูกเขาสัมผัส ริมฝีปากอิ่มเอิบแสนเย้ายวน ความหอมสะอาดของผิวกายเปล่งปลั่งและรอยพวกนั้นที่เขาสร้างเอาไว้  ไม่ว่าจะในตอนนั้นหรือตอนนี้ เด็กคนนั้นก็สวยอย่างไม่อาจละสายตา





ชายหนุ่มเดินออกมารับลมเย็นที่หน้าบ้านเช่นทุกเช้า แต่วันนี้ต่างออกไปตรงที่มองไปที่บ้านข้าง ๆ กัน รั้วกั้นที่สูงเพียงอกทำให้เห็นทุกการกระทำของเด็กหนุ่มคนนั้นได้เป็นอย่างดี


คุณ..”


พอดีเลย ผมให้ครับ


ถ้วยซุปชามใหญ่ที่อีกคนถือจานรองมันไว้อย่างระมัดระวังไม่ได้ทำให้เขาอดกังวลลงได้เพราะอีกไม่นานมันอาจตกลงพื้นสนามหญ้าหน้าบ้านของฝ่ายนั้นเองก็เป็นได้ ขาเรียวเล็กก้าวเปลี่ยนจากรั้วหน้าบ้านมาเป็นรั้วที่ติดกันแทน เด็กหนุ่มตัวผอมยื่นชามนั้นข้ามรั้วมา เขารับมันไว้อย่างงุนงงแต่เมื่อมองเห็นหน้าอีกคนเขาก็พอจะเข้าใจ


เอ่อ.. คือผมลองทำอะไรทานดู แต่ก็อยากตอบแทนคุณด้วย


ผมไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อยจะมาชดใช้อะไรกันล่ะคุณ ว่าแต่ตื่นเช้าขนาดนั้นไม่ระบมบ้างเหรอ?”


                ใช่เรื่องจะมาพูดกันตรงนี้เหรอครับ!”


คำถามตรง ๆ ของอีกฝ่ายทำให้แก้มขาวของเด็กน้อยขึ้นสีระเรื่อน่ามองฉับพลัน ปากอิ่มยิ้มเคอะเขินให้ผู้ใหญ่ขี้แกล้งแล้วพยักหน้าตอบกลับไปก่อนจะขอตัวเดินกลับเข้าบ้านไป ขาเล็กค่อย ๆ ก้าวอย่างระมัดระวัง แต่ไม่ทันถึงประตูบ้านเด็กหนุ่มก็หันหน้ามายิ้มตาหยีให้อีกคนแล้วก้มศีรษะงุดเข้าบ้านไป เขายิ้มตอบกลับไปให้อีกคนเช่นเดียวกัน


นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยิ้มให้ความน่ารักของใครสักคน


นานแค่ไหนแล้วที่หัวใจจะเต้นได้อย่างกระชุ่มกระชวยอย่างนี้


นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเล็ก ๆ ของใครอีกคน แม้สถานะของเราก็คล้ายกับคนแปลกหน้าที่เพียงแค่ผ่านมาและเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ร่วมกัน ถ้าเขาไม่ได้คิดอยากให้มันเป็นเพียงแค่เซ็กส์..





เด็กคนนั้นจะว่าอย่างไร





ความธรรมดาที่เที่ยงแท้กำลังมาเยือนเขาอีกครั้ง การรู้สึกสนใจใครสักคนที่เพียงได้ทำความรู้จักกันแค่ข้ามคืนแบบนี้ สิ่งฉาบฉวยที่เขากลับเนื้อเต้นไปกับความรู้สึกนั้นเหมือนเด็ก ๆ










รู้จักกันนานไม่ดีเท่ารู้จักกันดี





และเพราะความเชื่อใจ มันคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์










; ) ให้กำลังใจกันได้ที่

#ฟิคอดป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น